บาคาร่าออนไลน์ มิวเซียมสยาม ร่วมกับ เทศบาลนครภูเก็ต ชวนเรียนรู้เรื่องราวของประเพณีพ้อต่อที่ชาวภูเก็ตยึดถือปฏิบัติมานับ 100 ปี ผ่านนิทรรศการ เปิดตำนานพ้อต่อเมืองภูเก็ต The Legend of Ghost Festival Phuket ทั้งนี้ จากตำนานดังกล่าว ในช่วงเดือน 7 ตามปฏิทินจันทรคติจีนซึ่งตรงกับเดือนสิงหาคม – กันยายน ของทุกปี ชาวภูเก็ตเชื่อว่าเป็นช่วงเวลาที่ประตูนรกจะเปิดออก เพื่อปลดปล่อยเหล่าผีให้กลับมาเยี่ยมโลกมนุษย์เป็นเวลาหนึ่งเดือน ชาวไทยเชื้อสายจีนภูเก็ต จึงมีการจัดพิธีกรรมเซ่นไหว้อุทิศบุญกุศลให้กับบรรพบุรุษ และ ผีไร้ญาติ ที่เรียกว่า โฮ่เฮียตี่ หรือ เพื่อนที่แสนดี ในศูนย์กลางของชุมชน โดยมีการส่งเสริมการเรียนรู้ความเป็นมาของประเพณีพ้อต่อผ่านตำนานและเรื่องเล่าใน 6 โซนด้วยกัน เรื่องราวความสำคัญในนิทรรศการ มีดังนี้
มิวเซียมสยาม ชวนเรียนรู้ นิทรรศการเปิดตำนานพ้อต่อเมืองภูเก็ต ประเพณี ความเชื่อ ที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ต้นทุนทางวัฒนธรรม
โซนที่ 1 กำเนิดประเพณีพ้อต่อเมืองภูเก็ต: เรื่องราวความเป็นมาของประเพณีพ้อต่อ ประเพณีที่ชาวจีนปฏิบัติมาแต่โบราณและกลายเป็นประเพณีที่ชาวจีนโพ้นทะเลยึดถือปฏิบัติกันอย่างเข้มแข็ง
โซนที่ 2 ตำนานผ้อต่อก้ง : เปิดตำนานความเชื่อของชาวภูเก็ตเกี่ยวกับ “ผ้อต่อก้ง” ผู้ควบคุมเหล่าผีให้อยู่ในความเรียบร้อย
โซนที่ 3 เซ่นไหว้อะไร ดี ? : สำรับอาหารคือเครื่องมือสื่อสารกับโลกวิญญาณและเป็นส่วนสำคัญในพิธีกรรมการเซ่นไหว้ในประเพณีพ้อต่อ เซ่นไหว้อะไร ดี ? คำตอบอยู่ในแผ่นถอดรหัส
โซนที่ 4 ถอดรหัสเต่าแดง : เรียนรู้ที่มาและความหมายที่ซ่อนอยู่ใน “เต่าแดง” ของไหว้ที่ขาดไม่ได้ในประเพณีพ้อต่อผ่านตำนานโบราณ 5 เรื่อง
โซนที่ 5 พ้อต่อเมืองภูเก็ต: นำเสนอเรื่องราวตลอดหนึ่งเดือนของเทศกาลพ้อต่อเมืองภูเก็ต ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร หาคำตอบผ่านปฏิทินแผ่นยักษ์
โซนที่ 6 เกมเขาวงกตเปิดตำนานประเพณีพ้อต่อ: ในช่วงประเพณีพ้อต่อชาวจีนเชื่อว่าเป็นช่วงเวลาที่ประตูนรกเปิดออกเพื่อปลดปล่อยบรรดาผีให้กลับมาเยี่ยมโลกมนุษย์เป็นเวลา 1 เดือน เดือนนี้มีความเชื่อข้อห้ามข้อควรปฏิบัติมากมายเรียนรู้ผ่านเกมเขาวงกต
นอกจากนี้ มิวเซียมสยาม มุ่งหวังให้พื้นที่เมืองภูเก็ตแห่งนี้เป็น City Museum ที่มีชีวิตและยกระดับไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และด้วยจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ทางนิทรรศการเปิดตำนานพ้อต่อเมืองภูเก็ต ได้กำหนดมาตรการ การป้องกัน เพื่อดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ตามนโยบายของรัฐบาล
ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ อุทยานการเรียนรู้นครภูเก็ต (PK Park) 090 523 3997 โดยนิทรรศการเปิดตำนานพ้อต่อเมืองภูเก็ต เริ่มเปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันนี้ถึง 6 กันยายน 2564 ณ อุทยานการเรียนรู้นครภูเก็ต (PK Park) หรือ สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อเรียนรู้ด้านอื่นๆ ของพิพิธภัณฑ์ นิทรรศการ และแหล่งเรียนรู้ต่างๆ ได้จาก บัตรไทยแลนด์มิวเซียมพาส บัตรเดียวเที่ยวพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ทั่วไทย สอบถามข้อมูลเพิ่มได้ที่ 02 225 2777 ต่อ 529
วิจารณ์สนั่น ปลุกเสกน้ำอสุจิ อาจารย์หมี ทำเสน่ห์ให้คนทาหน้า
กินข้าวอยู่ ข้ามไปก่อน จอมขมังเวทย์เมืองปทุม ปลุกเสกน้ำอสุจิ อาจารย์หมี อ้างเป็นพิธีเขมร ทำเสน่ห์ โดยเลือกวัตถุดิบจากลูกศิษย์เกิดวันจันทร์ ปลุกเสกน้ำอสุจิ อาจารย์หมี กลายเป็นข่าวดังและที่วิจารณ์ของผู้คนจำนวนมาก หลังจากวันที่ 9 ส.ค.64 เพจเฟซบุ๊ก แม่ทัพลิง อินร่างทรง โพสต์เผยแพร่พิธีปลุกเสกสุดแปลก โดยข้อความในโพสต์ของเพจดังกล่าว ระบุว่า
“ช่างอุบาทว์และสกปรกจริงๆ”
“ในถุงยางก็น้ำของมันเอามาผสมกับขี้ผึ้งแล้วเอามาหลอกขายไห้คนบูชา ไห้คนเอามาทา โสโครกชิหาย xxxเวร”
ต่อมา มีการตรวจสอบพบว่า จอมขมังเวทย์ที่ ปลุกเสกน้ำอสุจินี้ คือ นายธฤต เพชรทองเทวากุล หรือ อาจารย์หมี โดยจากรายงานของทีมข่าว ไทยรัฐออนไลน์ ระบุ อาจารย์หมี กล่าวว่า คนส่วนใหญ่ที่ไม่รู้จักศาสตร์นี้ก็จะมองว่าอุตริ หรือเป็นน้ำมันเสนียดจัญไร ซึ่งมันไม่ใช่ แต่จริงๆ แล้วศาสตร์พวกนี้มันมีมานานแล้ว โดยของพวกนี้จะเป็นการทำให้คนหลงคนรัก
การนำน้ำอสุจิมาประกอบพิธีนั้นเป็นของเขมรและมีมาตั้งแต่สมัยโบราณ กรรมวิธีในการทำก็จะมีน้ำอสุจิ ของทั้งผู้ชายและผู้หญิงที่เกิดวันจันทร์ ซึ่งวันจันทร์นั้นคือวันเสน่ห์ เราจะเอามารวมกันให้ได้เยอะๆ แล้วจะนำมาเคี่ยวกับว่านเสน่ห์ ว่านดอกทองเขมร ว่านเสน่ห์จันทร์แดงจันทร์ขาว ซึ่งพวกนี้จะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์รักษาอยู่แล้ว เราจะมีการขึ้นขันแปด มีการบูชาครูบาอาจารย์ ซึ่งน้ำอสุจินั้นได้มาจากลูกศิษย์ทั้งนั้น และได้มาก่อนที่จะมีวิกฤติไวรัสโควิด-19 ระบาดด้วยซ้ำ
ทั้งนี้ อาจารย์หมี คือคนเดียวกับที่เคยตกเป็นข่าวนำกระดูกคนตายยัดใส่ตุ๊กตาลงอักขระยันต์ แล้วส่งออกไปต่างประเทศ เมื่อปลายปี 2563 ที่ผ่านมา
แต่จะเป็นฉบับเก่าหรือใหม่ สาระสำคัญ คือ การจัดทำรายงานที่เป็นเท็จ ซึ่งการเอาข้อมูลเป็นเท็จมาใช้กับโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่เกี่ยวเนื่องโดยตรงกับสถาบันพระมหากษัตริย์ การแอบอ้างเช่นนี้เหมาะสมแล้วหรือไม่ และจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาพลักษณ์ของสถาบันฯ เสื่อมเสียไปถึงพระเกียรติยศขององค์พระมหากษัติรย์หรือไม่ บาคาร่าออนไลน์